ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
Jeans สมาชิกใหม่

เข้าร่วมเมื่อ: 24/02/2013 ตอบ: 2
|
ตอบ: 24/02/2013 9:35 am ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
เรียน ท่านทนายที่เคารพ
มือถือดิฉันหายแจ้งความแล้ว ต่อมาเจอมือถือตนเองวางขายในร้าน จึงพาตำรวจไปยึดมาเป็นของกลาง (ที่ร้านมือถือมีชื่่อที่อยู่ของคนที่นำมาขาย แต่ตำรวจบอกว่าตามหาแล้วไม่เจอเนื่องจากเขาอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง) เวลาผ่านไปเกือบสองเดือน ไปติดตามเรื่องที่สถานีตำรวจฯ อ้างความจำเป็นต้องใช้มือถือของกลาง ตำรวจจึงสอบปากคำแล้วให้เซ็นรับมือถือของกลางไปใช้งาน เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ ตำรวจโทรมาบอกให้เอามือถือของกลางไปคืน และจะเรียกเจ้าของร้านขายมือถือมาตกลงกัน อยากถามว่าในกรณีอย่างนี้ในฐานะเจ้าของมือถือของกลางจะไม่คืนได้ไหม ไม่ไปตามที่ตำรวจโทรนัดจะมีความผิดหรือเปล่า จะเจอข้อห้ายักยอกทรัพย์หรือไม่ เขาจะดำเนินการอย่างไร อยากขอคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรดี ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ลิงก์ผู้สนับสนุน Sponsored Links
|
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
หยินหยาง ผู้ชำนาญการ


เข้าร่วมเมื่อ: 28/06/2008 ตอบ: 1321
|
ตอบ: 24/02/2013 1:00 pm ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
...อยากทราบเพิ่มเติมว่า ร้านที่รับซื้อนั้น ตั้งอยู่ที่ใดบริเวณใด เป็นท้องตลาดของการซื้อขายโทรศัพท์หรือไม่...และมีใบรับซื้อของเก่าหรือเปล่า..  |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
Jeans สมาชิกใหม่

เข้าร่วมเมื่อ: 24/02/2013 ตอบ: 2
|
ตอบ: 24/02/2013 1:56 pm ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
ร้านมีใบรับซื้อ-ขายค่ะและร้านอยู่หลังมหาวิทยาลัยค่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
หยินหยาง ผู้ชำนาญการ


เข้าร่วมเมื่อ: 28/06/2008 ตอบ: 1321
|
ตอบ: 24/02/2013 2:28 pm ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
....กรณีรับซื้อของในท้องตลาดบริเวณที่ขายของนั้นๆโดยสุจริต ผู้สุจริตย่อมได้รับการคุ้มครองครับ...หากจขกท. ต้องการได้ทรัพย์คืนต้องซื้อคืนครับ...ส่วนค่าเสียหายต้องเรียกคืนจากคนร้ายครับ...แต่หากไม่คืนก็เป็นเรื่องการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในทางแพ่งที่ต้องไปฟ้องร้องกันต่างหาก...แต่ทรัพย์ดังกล่าวมันเป็นพยานหลักฐานที่ตรวจยึดไว้ หากไม่นำมาส่งมอบอาจเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมครับ ไม่ใช่เรื่องยักยอก...เรื่องนี้ความจริงพนักงานสอบสวนไม่ควรคืนทรัพย์ไปจนกว่าจะมีการตกลงไกล่เกลี่ยกันก่อนเพราะไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาตามมาแน่ๆ...  |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
สว.ลาดตระเวร สมาชิกใหม่

เข้าร่วมเมื่อ: 30/10/2012 ตอบ: 17
|
ตอบ: 25/02/2013 10:17 am ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
ดูเเล้วเหมือนจะยุ่งนะ เพราะเจ้าของไม่อยากคืนซะเเล้ว เหอๆๆๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
คิวมูลลัส แฟนคลับ


เข้าร่วมเมื่อ: 25/02/2011 ตอบ: 327
|
ตอบ: 27/02/2013 9:57 am ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
เห็นกระทู้นิ่งมาตั้งแต่เมื่อวาน ขอเ้พิ่มเติมให้อีกความเห็นหนึ่งเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์
ในความเห็นผมท่านเจ้่าของโปรดอย่าเพิ่งตกใจ โดยหลักแล้วเมื่อท่านเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในทรัพย์ ท่านจะมีสิทธิชอบธรรมในทรัพย์ของท่่านนั้นทุกประการ (ปพพ.1336)
1) การที่ร้านรับซื้อมาจากชายคนหนึ่งซึ่งปัจจุบันยังตามตัวไม่ได้ ร้านจะอ้างว่าซื้อมาโดยสุจริต โดยซื้อในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าที่ขายของชนิดนั้นไม่ได้ เพราะร้านรับซื้อมือถือหลังมหาลัยโดยทั่วไปร้านเดียวจะมิใช่ท้องตลอดในการซื้อขายมือถือ (เว้นเสียแต่ว่าทั้งละแวกนั้นจะเป็นที่รวมชุมนุมการซื้อขายมือถือกันขนานใหญ่ เช่นมีหลายร้านตลอดซอยจนรู้ไปทั่วอย่างเครื่องไฟฟ้าที่คลองถม ฯลฯ) ทั้งชายคนร้ายนั้นน่าจะไม่ใช่พ่อค้าที่มีอาชีพขายมือถือแน่ๆ (ปพพ.1331)
2) ผลจากข้อ 1) ส่งผลให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ยังมีสิทธิเต็มทุกประการ เจ้าของมือถือไม่ต้องคืนมือถือแก่ร้าน รวมทั้ง ไม่ต้องชำระราคาที่ร้านซื้อมือถือมาด้วย โดยร้านจะต้องไปไล่เบี้ยค่าเสียหายเอากับผู้ขายคนนั้นเอง
3) แต่พนักงานสอบสวนมีอำนาจยึดมือถือดังกล่าวไว้เพื่อประกอบคดีได้ เป็นอำนาจของรัฐเหนือเจ้าของทรัพย์ (ป.วิฯ อาญา ม.132) อย่างไรก็ดีเห็นว่าเมื่อเรื่องนี้ พงส.คืนมือถือแก่เจ้าของไปก่อนแล้วแสดงว่าไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ประกอบคดี ปัจจุบันถ้าจะเรียกมือถือกลับไปยึดอีก พนักงานสอบสวนคงต้องมีเหตุผลรองรับเพิ่มเติมพอสมควร ซึี่งถ้าคดีไม่มีเหตุจำเป็นต้องนำมือถือไปประกอบคดีอีก แต่มีเหตุใหม่เพียงว่าทางร้านมาเรียกร้องขอคืน หรือ ขอเรียกร้องเอาเงินที่ซื้อมาคืน ฯลฯ โดยที่ข้อเท็จจริงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากข้อ 1) ข้างต้น เห็นว่า พงส. จะยึดไว้เพื่อต่อรองหรือเพื่อคืนแก่ร้านนั้น น่าจะไม่ถูกต้องสมควรแน่ๆ
4) ถ้าพนักงานสอบสวนจะยึดไว้ประกอบคดี.. เขามีอำนาจยึดได้ แต่เจ้าของควรให้ปากคำยืนยันเพิ่มเติมว่า ขอคัดค้านการคืนแก่ร้านโดยขอให้เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจเท่านั้น จากนั้นควรยื่นคำร้องขอวางหลักทรัพย์ประกันมือถือของกลางนำไปเก็บรักษาหรือใช้ประโยชน์ (จำนวนหลักทรัพย์ที่วางน่าจะไม่เกินราคามือถือในปัจจุบัน) หาก หัวหน้า พงส. มีคำสั่งไม่ให้ประกันท่านก็สามารถอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลท้องที่ได้ภายใน 30 วัน (ป.วิฯ อาญา ม.85/1)
5) ถ้าร้านไม่สุจริตรับซื้อมาโดยไม่ใส่ใจว่าจะเป็นของผิดกฎหมายหรือไม่ ร้านหมิ่นเหม่ที่จะผิดฐาน รับของโจร ซึ่งมีโทษจำคุก ดังนั้นเรื่องนี้ร้านควรจะไปไล่เบี้ยเอากับชายผู้ขายเอง ไม่ควรมาดึงดันเอากับผู้เสียหายเพราะความเสี่ยงมันสูงกว่า ทั้งร้านยังมีปัญหาเรื่องการรับซื้อโดยบันทึกข้อมูลผู้ซื้อไว้ครบถ้วนถูกต้องหรือไม่อีกฐานหนึ่งด้วย
6) ถ้าเจ้าของไม่คืนแก่พนักงานสอบสวน เจ้าของทรัพย์ไม่ผิดยักยอก เพราะเป็นทรัพย์ของตนเอง แต่เจ้าของอาจผิดฐานขัดคำสั่ง จพง. หรือ ความผิดต่อ จพง. ฐานอื่นได้ ส่วนร้านแม้จะรับซื้อมาแต่ตามกฎหมายร้านก็ยังไม่มีสิทธิ์ดีไปกว่าเจ้าของ โดยร้านไม่มีสิทธิ์เรียกทรัพย์คืน รวมทั้งไม่มีสิทธิ์ได้รับชำระราคาคืนตาม ปพพ.1331 ด้วย ทั้งร้านจะร้องทุกข์มอบดำเนินคดีให้ พงส.ดำเนินคดีกับเจ้าของก็ไม่ได้ อย่างมากร้านก็จะไปฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อให้ศาลวินิจฉัยว่าใครเป็นเจ้าของ ซึ่งร้านคงไม่ทำเพราะไม่คุ้มค่าใช่จ่าย แต่ถ้าทำคดีแพ่งก็จะจบด้วยเหตุผลเดียวกับข้อนี้คือ ร้านไม่ใช่เจ้าของและไม่มีสิทธิเรียกราคาคืนด้วย โดยร้านต้องไปไล่เบี้ยกับผู้ขายเท่านั้น
7) เรื่องที่เล่ามามีปัญหาในข้อเท็จจริงนิดนึง.. ตำรวจที่คืนมือถือแล้วต่อมาเรียกไปยึดอีกครั้งนั้น เป็นพนักงานสอบสวน หรือ ตำรวจฝ่ายอื่น หากเป็นพนักงานสอบสวน เขาควรทราบประเด็นที่วินิจฉัยข้างต้นนี้อยู่แล้วและโดยทั่วไปมักจะอธิบายให้ร้านเข้าใจความเสี่ยง และไม่เรียกผู้เสียหายไปเจรจากันในเื่รื่องนี้อีก |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
สากกะเบือ3 ผู้ชำนาญการ


เข้าร่วมเมื่อ: 25/09/2009 ตอบ: 1843
|
ตอบ: 27/02/2013 3:56 pm ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
มาตรา 1332 "บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริต ในการขายทอดตลาด หรือ ในท้องตลาด หรือ พ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้เจ้าของแท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะใช้ราคาที่ซื้อมา"
ผมเห็นด้วยกับท่านคิวมูลลัส..ร้านรับซื้อแม้จะลงหลักฐานครบถ้วนไม่มีสิทธิ์ดีไปกว่าเจ้าของ เพราะไม่ได้ซื้อมาจากการขายทอดตลาด หรือ ในท้องตลาดเพราะมีคนเอามาขายให้ที่ร้าน แม้ว่าร้านของตนเองจะอยู่ในตลาด(มีฎีกา) และคนร้ายเอามือถือมาขายเพียงเครื่องเดียวก็ไม่ใช่พ่อค้าที่ขายของชนิดนั้นแน่นอน....หากคืนให้ร้านและให้เจ้าของซึ่งถูกขโมยไป ไปซื้อคืนคงไม่เป็นธรรมแน่ หากเป็นตัวเราจะรู้สึกอย่างไร....ท่านคิวมูลลัสครับ ตามข้อ 7 ของท่าน ผมว่าไม่ต้องเป็นตำรวจสายงานอื่นหรอกครับ มี พงส.อีกมากที่ไม่เข้าใจ...ตามกระทู้ตำรวจคงไม่ต้องการยึดไว้อีกหรอกครับเพราะไม่จำเป็นในคดีแล้ว แต่คงเป็นเพราะทางร้านมาทวงถามแล้วไม่รู้ว่าตนเองคืนถูกหรือไม่ เพราะตามกระทู้บอกว่าให้เอาไปคืนก่อนแล้วตำรวจจะเรียกเจ้าของร้านมาตกลงกัน ...ผมว่าเจ้าของกระทู้ไม่ต้องคืน แต่ควรจะช่วยทางร้านเขาบ้างก็ดีนะครับ ซักครึ่งก็ยังดี เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งของที่ถูกลักมา และหากเขาไม่รับซื้อไว้ท่านก็อาจจะไม่ได้คืน ต้องเสียเงินซื้อใหม่...เป็นความเห็นส่วนตัวครับ ไม่ค่อยถนัดเรื่องแพ่ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
ไม่ตรงแต่ก็แวดวงนะครับ สมาชิกใหม่

เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011 ตอบ: 23
|
ตอบ: 28/02/2013 12:20 am ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
ถกกันเรื่อยๆ นะครับ
ตกลงโทรศัพท์ที่ถูกลักไป เป็นของกลางหรือเป็นทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายครับ
ของกลางก็จัดการแบบของกลาง
แต่ถ้าเป็นทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายก็ต้องคืน แต่ถ้า พงส.เห็นว่าของกลางดังกล่าวต้องดำเนินการ ตาม ม.132 วิ.อ. (2)(4) พงส.จะยึดไว้ได้นานแค่ไหนเมื่อไม่ใช่ของกลาง เมื่อ ม.132 วิ.อ. (2)(4) เป็นเรื่องการสอบสวนสามัญ ก็เก็บไว้ได้แค่ชั้นสอบสวน |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
ไม่ตรงแต่ก็แวดวงนะครับ สมาชิกใหม่

เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011 ตอบ: 23
|
ตอบ: 28/02/2013 12:24 am ชื่อกระทู้: โทรศัพท์มือถือหาย |
|
|
ขออนุญาตแก้ไขเล็กน้อยครับเนื่องจากพิมพ์ผิด
ถกกันเรื่อยๆ นะครับ
ตกลงโทรศัพท์ที่ถูกลักไป เป็นของกลางหรือเป็นทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายครับ
ของกลางก็จัดการแบบของกลาง
แต่ถ้าเป็นทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายก็ต้องคืน แต่ถ้า พงส.เห็นว่าทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายดังกล่าวต้องดำเนินการ ตาม ม.132 วิ.อ. (2)(4) พงส.จะยึดไว้ได้นานแค่ไหนเมื่อไม่ใช่ของกลาง เมื่อ ม.132 วิ.อ. (2)(4) เป็นเรื่องการสอบสวนสามัญ ก็เก็บไว้ได้แค่ชั้นสอบสวน |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|
|
|