ชนแล้วหนี พงส.ไม่คืนรถของกลาง

[บุคคลทั่วไป]

ข้อ 9
การเรียกประกันหรือหลักประกันและการกําหนดเงื่อนไขจะต้องมีความเหมาะสม กับความสําคัญของพยานหลักฐานในคดีและมูลค่าของสิ่งของ โดยไม่สร้างภาระแก่ผู้ยื่นคำร้อง จนเกินควรแก่กรณี

คดีประมาทชน ทั้งหนียึดรถได้ตัว ไม่หนีมีตัว ในทางพยานหลักฐาน รถไม่ได้ใช้ทำผิด ไม่ริบ
และตัวรถทั้งคันไม่ใช่พยานวัตถุโดยตรง

แต่พยานหลักฐานสำคัญได้แก่ร่องรอยชนที่ปรากฎ หากได้ตรวจสภาพไว้แล้วเพื่อประกอบการพิจารณาคดี
ไม่ว่ารถจะราคาเท่าใด ก็ไม่จำต้องเรียกประกัน ( ไม่จำต้องทำสัญญาประกันกำหนดวงเงินรับผิดตามข้อ 8(2))
ไม่จำต้องเรียกหลักประกัน ( ไม่ต้องทำสัญญาประกันให้วางหลักประกันตามข้อ 8(3))

ให้คืนโดยไม่มีประกัน วิธีคืนตาม 8(1) เพียงแค่ทำสัญญารับรถคืน สาบานตนว่า พร้อมจะนำมามอบให้หาก พงส และ พงอ ต้องการใข้เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีอีก

ก็ชอบด้วยกฎหมายแล้ว และไม่ขัดข้อ 7 เนื่องจากข้อ 7 เป็นเพียงตัวอย่างที่ ยกข้อเท็จจริงว่า ของกลางไม่สำคัญราคาไม่สูงให้คืนโดยไม่มีประกันก็ได้
ไม่ได้หลักการบังคับว่า ของกลางไม่ใช่หลักฐานสำคัญแต่ราคาสูงต้องมีประกันแต่อย่างใด

ลิงก์ผู้สนับสนุน Sponsored Links

[บุคคลทั่วไป]

การทำสัญญาประกันของกลางกำหนดวงเงินรับผิดตามวิธีการตามกฎกระทรวงข้อ 8(2) และ 8(3) โดยเรียกประกัน นั้น
มีข้อพิณาตามข้อ 9 สองประการคือ

ของกลางนั้นเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีประการหนึ่ง และ ของกลางมีมูลค่าสูงอีกประการหนึ่ง รวม 2 ประการ

เช่น ของกลางนั้นใข้กระทำผิดเป็นพาหนะขนคนต่าวด้าวเข้ามาในราขอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เป็นของที่ศาลพึงริบ และ มีราคาสูง
การให้คืนของกลางจึงต้องพิณาให้คืนแบบมีประกันกำหนดวงเงินรับผิด

ส่วนคดีประมาทรถชน รถเป็นเพียงสิ่งของใข้พิสูจน์ความผิด ไม่ใข่ของต้องริบ ได้ทำการตรวจสภาพตรวจพิสูจน์ร่องรอยชนทางคดีไว้แล้ว
ตัวรถทั้งคันไม่ได้เป็นพยานวัตถุโดยตรง ก็ไม่ใช่หลักฐานสำคัญ แม้จะมีราคาสูง ก็ไม่เข้าเกณฑ์ที่ตะต้องพิณาเรียกประกันให้ต้องมีวงเงินรับผิด
พิณาคืนตาม 8(1) ทำเพียงสัญญารับคืน โดยสาบานตนว่า...........
ก็ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

[คนเมืองป่า]

ขอบคุณครับสำหรับความเห็นครับ เห็นด้วยครับ
มีคำถามต่อครับ
1.ในกรณีที่ขับรถชนแล้วหนี คู่กรณีถึงแก่ความตาย หลังจากชนได้ 1-2 วัน ผู้ต้องหามามอบตัวพร้อมนำนำรถยนต์รถยนต์มาพบพนักงานสอบสวนเอง รถยนต์ฝ่ายผู้ต้องหามีประกันภัย ตรวจสภาพเสร็จแล้ว อยู่ในระหว่างเจรจาค่าเสียหาย พงส.จะให้คืนแบบ8(2) หรือ 8(3) ถามว่าทั้งสองแบบเป็นการคืนโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ครับ

2.ในกรณีที่ขับรถชนแล้วหนี คู่กรณีถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหามามอบตัวพร้อมนำนำรถยนต์รถยนต์มาพบพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียก รถยนต์ฝ่ายผู้ต้องหามีประกันภัย ตรวจสภาพเสร็จแล้ว อยู่ในระหว่างเจรจาค่าเสียหาย พงส.จะให้คืนโดยแบบ8(2) หรือ 8(3) ถามว่าทั้งสองแบบเป็นการคืนโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ครับ

[บุคคลทั่วไป]

1. แต่ละเคสอาจมีข้อเท็จจริงไม่เหมือนกัน ต้องดูก่อนว่า พงส เจ้าของเรื่องมีเหตุผลอะไรถึงเรียกให้มีประกันรถ
2. เหมือนข้อ 1

[คนเมืองป่า]

[บุคคลทั่วไป]

เห็นว่า คดีประมาทชน รถไม่ได้ใช้ทำผิด แม้มีราคาสูง ก็ไม่ควรเรียกประกัน
เนื่องจาก ข้อ 9 ตอนท้าย การเรียกประกันต้องไม่สร้างภาระเกินควรแก่กรณีแก่ผู้ร้องขอ

[คนเมืองป่า]

เห็นด้วยครับที่คดีขับรถประมาทไม่ควรเรียกประกัน เคยมีหลาย สภ.เรียกประกันในกรณีขับรถชนแล้วหนี แม้ผู้ต้องหาจะมามอบตัว โดยไม่มีพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงที่มีเหตุผลประกอบเหตุที่ต้องเรียกประกัน ซึ่งผมเห็นว่า เป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน จึงอาจผิด 157 ได้

[บุคคลทั่วไป]

อย่าเพิ่งสรุปยังงั้น
เขาอาจมีเหตุผลตามท้องสำนวนก็ได้

[คนเมืองป่า]

[บุคคลทั่วไป]

เอาตัวอย่างที่ท่านพบของจริงมาเสนอดีกว่า ที่ว่าน่าจะผิด 157 น่ะ ขทจ
เป็นยังไง

[คนเมืองป่า]

ตัวอย่างที่ผมพบ มี 2 เคส
1.เกิดเหตุรถยนต์ชนจยย.แล้วหลบหนี คู่กรณีเสียชีวิต รุ่งเช้า ผู้ขับขี่สำนึกผิดมามอบตัวพร้อมนำรถยนต์มาพบ พงส. เมื่อได้ตรวจสภาพรถเสร็จแล้ว ผู้มีสิทธิในรถขอรถคืน แต่ พงส.ไม่ยอมคืน และให้คืนรถโดยมีประกันและหลักประกัน
2.รถยนต์ชนคนเดินถนนบาดเจ็บเล็กน้อย ผู้ขับขี่ขับรถหนี และมามอบตัวพร้อมนำรถมามอบต่อ พงส.ในวันเดียวกัน เมื่อได้ตรวจสภาพเสร็จแล้ว ผู้มีสิทธิขอรถคืน พงส.ไม่ยอมคืน แต่ พงส.ให้ทำประกันและมีหลักประกัน
...ทั้งสอง กรณี ไม่มีเหตุผลหรือพฤติการณ์อื่นใดสลับซับซ้อน
ส่วนคำถามที่ว่า มีกรณีรถชนแล้วหลบหนี มีกรณีใดบ้างที่สามารถเรียกประกันได้ ผมยังอยากทราบเหตุผลอยู่นะครับ ซึ่งผมเองยังคิดไม่ออกว่า จะมีพฤติการณ์ใดให้สามารถเรียกประกันได้

[บุคคลทั่วไป]

ทั้งสองกรณี เหตุที่ พงส เรียกประกัน น่าจะมาจากตีความมาจากตัวอย่างการใข้ดุลพินิจตาม ข้อ7 รถราคาสูงจึงตีความว่า ต้องมีประกัน
โดยไม่ได้จับหลักเกณฑ์ตามข้อ 9

[คนเมืองป่า]

[บุคคลทั่วไป]

เขาตีผิดจึงคิดคืนแบบต้องมีประกัน

พงส หลายคน ขี้เกียจยุ่งยากตอนคืน


รถชนไม่หนี เอารถมาโรงพัก ไม่ลงยึดของกลาง
เอาช่างมาตรวจสภาพ ตรวจร่องรอย ถ่ายภาพ คืนเลย
ลง ปจว เพียงว่า รถชนกัน เอารถมาตรวจสภาพที่สภ เสร็จแล้ว
มอบรถให้เจ้าของรับไปเก็บรักษาเนื่องจากตรวจร่องรอยทางคดีเสร็จแล้ว
สั้น ง่าย ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดระเบียบเกี่ยวกับรถของกลางตำรวจ
ก็ต้องรับผิดทางวินัยที่ไม่ลงเลขยึดตามระเบียบแล้วคืนหากมีข้อร้องเรียน
ซึ่งหากยึดไว้ก็คืนได้แบบไม่มีประกันตาม กฎกระทรวง 85/1