ชนแล้วหนี พงส.ไม่คืนรถของกลาง

[คนเมืองป่า]

เป็นคดีขับรถชนแล้วหนีตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ยึดรถเป็นของกลางตรวจสภาพเสร็จเรียบร้อยและได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาแล้ว ไม่ปรากฎเหตุอื่นๆ ให้ยึดรถไว้อีกต่อไป ผู้ครอบครองมาขอรถคืน แต่ พงส.ไม่สั่งคืนรถของกลาง ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา 78 วรรคสอง แต่กลับนำ ป.วิ.อ.มาตรา 85/1 มาบังคับใช้ โดยให้ทำประกัน ผู้ครอบครองยืนยันไม่ทำประกัน แต่จะขอให้คืนรถของกลาง ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ โดยไม่มีเงื่อนไข พงส.ยืนยันไม่คืนถ้าไม่ทำประกัน ตาม
ป.วิ.อ.85/1 โดยให้อุทธรณ์ คำสั่งไม่คืนตาม ป.วิ.อ.85/1
ในความเห็นผม เห็นว่า ในกรณีชนแล้วหนีและได้ตัวผู้ต้องหา เมื่อมีบทกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ให้นำ พ.ร.บ.จราจรฯ 78 วรรคสองบังคับใช้ก่อน หากไม่เข้าบทเฉพาะแล้ว จึงจะนำ ป.วิ.อ.85/1 มาบังคับใช้ การที่ พงส.ไม่ยอมคืนรถโดยนำ ป.วิ.อ.85/1 มาบังคับใช้อย่างไม่ถูกต้อง อาจเป็นความผิด ตาม ป.อ.157 ได้

ลิงก์ผู้สนับสนุน Sponsored Links

[เทพธันเดอร์นครปฐม]

จัดไป

[เทพธันเดอร์นครปฐม]

ได้ตัวคนจับมาแล้วก็คืนได้ ตาม ม.78 ว.2 พรบ.จราจรทางบกฯ คืนไปเถอะ ยังไงๆท้ายสุดก็ต้องคืน เพราะไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้กระทำผิด

[คนเมืองป่า]

พงส.รวมถึง หน.สถานี มักไม่คืนโดยให้เหตุผลว่า ให้ทำประกันเพื่อกันถูกฝ่ายผู้เสียหายหรือฝ่ายคนตายร้องเรียน แต่ไม่นึกถึงว่าจะถูกฝ่ายผู้ต้องหาดำเนินคดี แม้สุดท้ายจะยังไงก็ต้องคืน แต่การไม่คืนเมื่อผู้มีสิทธิ์มาขอรถคืนแล้วไม่คืนโดยไม่มีอำนาจให้ยึดอีกต่อไป ก็ถือว่าเป็นความผิดแล้ว

[บุคคลทั่วไป]

นี่แหละการที่ พงส.ขึ้นตรงกับ สตช. ที่มี ผบ.เจริญและอยู่ได้เพราะติดตามผู้มีบารมี และตามกระแส แต่ไม่ได้เจริญ หรืออยู่เพราะความรู้ หรืออาศัยความสามารถในการไต่เต้า และไม่คำนึงถ฿งความถูกต้อง

ชาวบ้านถึงได้ต่อต้านเอา

[บุคคลทั่วไป]

[บุคคลทั่วไป]

รถชนแล้วหนี รถนั่นเป็นสิ่งของ ที่ใช้พิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธ์ของผู้ต้องหา
พงส ยึดเป็นของกลาง เพื่อใข้พิสูจน์ความผิดนั้นได้ในฐานะที่เป็นพยานวัตถุ
ที่การสืบพยานวัตถุในศาลต้องนำตัววัตุจริงไปนำสืบ แต่ไม่บังคับศาลว่า
ต้องเรียกพยานวัตุไปสืบในศาลทุกคดี

ฉะนั้นถ้า พงส ได้ทำพยานหลักฐานเก็บร่องรอยการชน ตรวจความถูกต้องของทะเบียน
เลขเครื่อง ถัง ไว้แล้ว ก็ไม่ต้องเก็บพยานวัตถุชิ้นนี้เพื่อเอาไปสืบในศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ตาม ปวิอ 85 แต่ประการใด

ประกอบกับ พรบ จราจร ม 78 การริบรถมีกรณีเดียว เจ้าของไม่มาแสดงตนใน6 เดือน
สภาพชนเพราะประมาท ( ไม่เจตนา) แล้วหนี ไม่ถือว่ารถใช้ทำผิดตามข้อกฎหมายจึงไม่ริบ
เมื่อ พงส เก็บพยานหลักฐาน ครบแล้ว คืนเด็ดขาดไปเลย.

ส่วนที่ พงส อ้าง 85/1 ให้ทำประกันแล้วรับไปรักษา ใช้ประโยชน์ระหว่างคดี
เป็นกรณีที่ต้องยึดจนกว่าจะถึงที่สุด ตาม ปวิอ 85 วรรคท้าย
ที่บัญญัติว่า

"สิ่งของใดที่ยึดไว้เจ้าพนักงานมีอำนาจยึดไว้จนกว่าคดีถึงที่สุด เมื่อเสร็จคดีแล้วก็ให้คืนแก่ผู้ต้องหาหรือแก่ผู้อื่น ซึ่งมีสิทธิเรียกร้องขอคืนสิ่งของนั้น
เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่น" นั้น ต้องพิณาประกอบ พรบ จราจรทางบก ม 78 และพฤติการณ์แห่งคดีด้วยว่า รถต้องริบเพราะใช้ทำผิดหรือไม่
ถ้าเห็นว่า รถใช้ทำผิด ต้องริบ ท่านก็ต้องใช้ 85/1 ให้ประกันรถของกลาง

ถ้าเห็นว่า รถไม่ได้ใช้ทำผิด แค่เป็นพยานวัตถุพิสูจน์ความผิด เมื่อเก็บหลักฐานแล้ว ตรวจทะเบียนถูกต้องแล้ว
คืนขาดไปเลยครับ ในบัญชีของกลางแทงจำหน่ายคืนให้อัยการตรวจพิณาด้วย


อนึ่ง หลักเกณฑ์คืนรถชนแล้วหนี ปี 2523 นั้น มันขัดกฎหมาย 85/1
ใช้ไม่ได้โดยปริยาย

[บุคคลทั่วไป]

อุทาหรณ์ ตามฎีกา ท่านเทพ ลิ้งนี้

http://www.sobsuan.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=9465

[บุคคลทั่วไป]

ลองเทียบเคียง คดีลักทรัพย์

จับผตห ได้ พร้อมทรัพย์ของ ผสห ที่ถูกลักไป
พงส ก็ลงยึดทรัพย์นั้นเป็นของกลาง สอบถาม ผตห ไม่โต้แย้งกรรมสิทธ์
พงส ก็เสนอ ผกก คืนของกลางนั้น ให้ ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรับคืนไปเด็ดขาดได้
ไม่ต้องให้ เจ้าของมาประกันตาม 85/1 แต่ประการใด
เหตุผลที่คืนเด็ดขาดเพราะ

ยึดลงบัญชีของกลางเพียงเพราะเป็นหลักฐาน พยานวัตถุ ที่ใข้พิสูจน์ความผิดของ ผตห เท่านั้น
เมื่อ พงส ได้เก็บร่องรอยหลักฐานทางนิติวิทย์ฯแล้ว ตรวจหลักฐานความเป็นเจ้าของแล้ว เข้าสำนวนแล้ว
ก็หมดความจำเป็นในการยึดไว้ ไม่ต้องรอคดีถึงที่สุด
แม้ วิอ 85 จะให้อำนาจยึดถึงที่สุด แต่ไม่ใข้อำนาจยึดไว้ก็ทำได้
เพราะเป็นอำนาจตามดุลพินิจ ที่สามารถใข้ข้อกฎหมายว่า ไม่ใข่ทรัพย์ที่พึงริบโดยศาล
จึงไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจยึดถึงที่สุด

[บุคคลทั่วไป]

วิธีสืบพยานวัตถุ

ม 241 วิอาญา. /
สิ่งใดใช้เป็นพยานวัตถุต้องนำมาศาล
ในกรณีที่นำมาไม่ได้ ให้ศาลไปตรวจจดรายงานยังที่ที่พยานวัตถุนั้นอยู่ตามเวลาและวิธี
ซึ่งศาลเห็นสมควรตามลักษณะแห่งพยานวัตถุ

[บุคคลทั่วไป]

ถ้าเห็นว่า รูปคดีมีความจำเป็นยังต้องใช้รถเป็นพยานวัตถุไว้นำสืบ
ก็ใช้85/1 ประกอบกฎกระทรวง ทำสัญญาประกัน แบบ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ประกันก็ได้

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/A/032/10.PDF

[บุคคลทั่วไป]

[บุคคลทั่วไป]

ของกลางอาญา ยึดไว้ 2 วัตถุประสงค์
1 เพื่อพิสูจน์ความผิด
2.เพื่อให้อัยการฟ้องขอศาลให้ริบ จากเหตุ มีไว้ ได้มา ได้ใช้ จากการทำผิด

รถชนแล้วหนี ยึดไว้ได้เพื่อ 1 พิสูจน์ความผิด ไม่ได้เพื่อริบ
จึงมี 85/1 ประกอบกฎกระทรวง ให้ยื่นคำร้องขอรับคืนไประหว่างคดีได้
ออกหลัง พรบ จร 78

พงส จึงชอบที่จะใช้ 85/1 ประกอบกฎกระทรวง
รับคำร้อง และสั่งคืนไปก่อนได้ โดยไม่มีประกัน และหลักประกัน
แต่ทำสัญญาไว้ตามที่ กฎกระทรวงกำหนด กล่าวคือ ให้นำมาคืน พงส หรืออัยการได้
เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องนำสืบพยานวัตถุตามคำสั่งศาล หากศาลเรยกตรวจ
ถือว่า ทำขอบด้วยอำนาจหน้าที่ พงส แล้ว ไม่ผิด 157
เพราะทำตามกฎหมาย ไม่ได้ฝ่าฝืน 78 พรบจราจร คือ ไม่ได้เอาไว้ริบ
แต่เอาไว้พิสูจน์ความผิด

[บุคคลทั่วไป]

แต่ถ้า ให้ทำสัญญาประกัน มีหลักทรัพยประกันด้วย
น่าจะเป็นการใช้ดุลพินิจ ที่เป็นการกำหนดวิธีการขั้นตอนเกินจำเป็น
แก่รูปคดี ผู้ร้องย่อมอุทธรณ์ขอลดวิธีการเป็นรับคืนโดยทำสัญญาว่าจะนำมาคืน
เมื่อเรียกได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำได้ ตามกฎกระทรวง

[บุคคลทั่วไป]

กฎกระทรวง 85/1 ข้อ 8 (1)

(๑) กรณีที่ไม่มีประกัน ให้ผู้ยื่นคําร้องทําสัญญารับมอบสิ่งของไปดูแลรักษาหรือใช้ ประโยชน์และสาบานหรือปฏิญาณตนว่าจะคืนส่ิงของเมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แล้วแต่กรณี สั่งให้ส่งคืนสิ่งของ/

[คนเมืองป่า]

[บุคคลทั่วไป]

หลักการเดียวกัน ข้อ8(1) ได้กับของกลางทุกคดี ถ้าดุลพินิจเห็นว่า เป็นพยานวัตถุสำคัญที่พิสูจน์มัดความผิดได้ จำต้องมีไว้
แต่ไม่ริบ ก็คืนไปตามข้อ8(1)

[บุคคลทั่วไป]

ถ้าของกลาง ศาลริบได้ ก็ไม่ใช้ 85/1 ก็ได้
เพราะ 85/1 สัญญาประกันของกลาง ไม่ใข่สัญญาทางแพ่ง
แต่เป็นสัญญามหาชน ที่รัฐมีเอกสิทธิเหนือประชาชน ในการอนุญาตให้ประกันหรือไม่ให้
แม้หลักประกันจะมั่งคง แต่ถ้าให้ประกันแล้วจะเสียหายต่อการดำเนินคดี
เช่น ประกันไปแล้วของกลางเสี่ยงต่อการสูญหาย กระทบการดำเนินคดีไม่ให้ประกันก็ได้
แต่ต้องมีเหตุผลตอบได้ว่าทำไมไม่ให้ประกันทั้งที่มีหลักทรัพย์

[คนเมืองป่า]

[คนเมืองป่า]